กรมศุลกากรร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงกับการรถไฟแห่งประเทศไทย มุ่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ให้มีมาตรฐานระดับสากล
กรมศุลกากรจัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการขนส่งของที่อยู่ในอารักขาของศุลกากร
ทางรถไฟและการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่าง กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง โดยนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม โดยนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ให้มีมาตรฐานระดับสากล และสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกอบการ ประชาชน และเศรษฐกิจของชาติ ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร
เมื่อวันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2568
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมศุลกากรมีบทบาทสำคัญ
ในการอำนวยความสะดวกทางการค้า และควบคุมทางศุลกากร เพื่อให้การนำเข้า ส่งออก และการผ่านแดนเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นไปตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังมีภารกิจสำคัญ
ในการปกป้องสังคมจากการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ผิดกฎหมาย รวมถึงป้องกันภัยคุกคามที่อาจกระทบ
ต่อความมั่นคงของประเทศ
ในปัจจุบัน บทบาทของระบบ ขนส่งสินค้าทางราง มีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะภายใต้บริบทของยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ชาติ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อสร้างเครือข่ายการขนส่งที่ครอบคลุมและเชื่อมโยง
ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ
กรมศุลกากรและการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน จึงได้ร่วมกันจัดทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ฉบับนี้ เพื่อกำหนดแนวทางและกรอบการปฏิบัติงาน
ที่ชัดเจนในด้านการเชื่อมโยง ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าที่อยู่ในอารักขาของศุลกากร ผ่านแพลตฟอร์มกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว National Single Window (NSW) ซึ่งเป็นระบบกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการ
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า การพัฒนาระบบนี้จะช่วยให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รายงานยานพาหนะเข้า/ออก บัญชีสินค้าทางรถไฟ และข้อมูลการปฏิบัติพิธีการศุลกากร มีความถูกต้อง รวดเร็ว ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศ